แบคทีเรียขจัดสารพิษ

สัตวแพทย์ผู้ชำนาญด้านพิษวิทยา จากรัฐโอเรกอน ประกาศว่าแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในกระเพาะของปลาวาฬจะช่วยกำจัดคราบน้ำมันและสารอันตรายจากโรงงานได้ไม่ว่าสารพิษนั้นจะอยู่ในดิน ในสระน้ำจืด หรือในทะเล

เมื่อปี พ.ศ. 2537 คุณหมอมอรี่ เคร็ก ได้ศึกษากระเพาะอาหารของปลาวาฬที่จับได้ในอลาสกา พบว่ามีแบคทีเรียอยู่ถึงพันชนิด ในจำนวนนี้ มีแบคทีเรียที่สามารถย่อยสลายสารแนพทาลีน แอนทราซีน และพีซีบีได้ซึ่งสารทั้งสามนี้ เกี่ยวข้องกับการก่อโรคมะเร็งในมนุษย์ คุณหมอจึงเข้าใจได้ทันทีว่าปลาวาฬมีชีวิตอยู่ในทะเลที่เต็มไปด้วยสารพิษได้ ก็เพราะแบคทีเรียพวกนี้นี่เอง

แบคทีเรียในกระเพาะปลาวาฬ สามารถย่อยสลายสารอันตรายให้กลายเป็นสารปราศจากพิษ โดยไม่ต้องอาศัยออกซิเจน ปลาวาฬจึงไม่ได้รับอันตรายจากมลพิษที่มนุษย์สร้างขึ้น ถ้ามนุษย์จะนำแบคทีเรียนี้มาใช้ประโยชน์ ก็อาจช่วยขจัดคราบน้ำมันที่ซึมลึกเข้าไปตามชายหาด หรือตกค้างอยู่ตามซอกหิน ซึ่งกำจัดได้ยากด้วยวิธีอื่น

หมอเคร็กยังไม่รู้ว่าแบคทีเรียตัวไหนที่กินสารพิษจะต้องส่งทีมไปอลาสกาอีกครั้ง สกัดเอาแบคทีเรียชนิดที่ดี ๆ มาให้ได้

นอกจากกระเพาะปลาวาฬแล้ว หมอเคร็กยังล้วงลึกเข้าไปถึงกระเพาะแพะและแกะ จนรู้ว่ามีแบคทีเรียที่ย่อยสาร TNT ที่เป็นวัตถุระเบิด ให้หมดฤทธิ์ไปได้ หมอจึงได้ร่วมกับทหารช่างสหรัฐฯ ในการกำจัดเศษวัตถุระเบิดตามคลังอาวุธเก่า ๆ ในรัฐต่าง ๆ ซึ่งดำเนินการอยู่ในช่วงปลายปี 2538 นี้

แกะนั้นโชคดีกว่าวัวและม้า เพราะในกระเพาะของแกะมีแบคทีเรียอยู่ 4 ชนิด คอยย่อยสารอัลคาลอยด์ที่เป็นพิษ ในพืชที่ชื่อว่า tansy ragwort ส่วนม้าและวัว เมื่อกินพืชชนิดนี้เข้าไปพิษจะเข้าสู่ตับจนถึงกับล้มตายได้โดยง่าย คนเลี้ยงวัวและม้าในสหรัฐและแคนาดาเสียสัตว์เลี้ยงไปเพราะเหตุนี้ปีละมาก ๆ เฉพาะในโอเรกอน คิดเป็นค่าเสียหายถึงปีละ 250 ล้านบาท

ด้วยเหตุนี้ หมอเคร็กจึงเอาแบคทีเรียจากท้องแกะไปใส่ในกระเพาะแม่วัวจำนวน 10 ตัว แล้วให้แม่วัวกิน tansy ragwort ปรากฎว่าแม่วัวทั้งหมดไม่มีอาการเจ็บป่วยใด ๆ

หลังจากทราบข่าวนี้บริษัทต่าง ๆ จึงมาติดต่อหมอเคร็ก ขอนำแบคทีเรียไปผลิต เพื่อจำหน่ายแก่เกษตรกร เป็นยาก่อนอาหารสำหรับวัวและม้า

สิทธิบัตรสำหรับแบคทีเรียเลี้ยงวัวนี้ หมอเคร็กยกให้เป็นสมบัติของมหาวิทยาลัยรัฐโอเรกอน และในไม่ใช้หากแยกแบคทีเรียจากกระเพาะปลาวาฬได้ หมอเคร็กก็คงถูกบริษัทต่าง ๆ คอยตามตื้ออีกครั้งหนึ่ง
จาก คอลัมน์ มองโลก โดย ภูสิตรอน อัพเดท ปีที่ 10 ฉบับที่ 114 ธ.ค. 2538 หน้า 15-16