-
บรรยากาศทำหน้าที่ป้องกันรังสีอัตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์ไม่ให้ตกกระทบถึงพื้นโลกมากเกินไปเป็นอันตรายต่อ
มนุษย์ก๊าซสำคัญที่ทำหน้าที่กรองรังสีอัลตราไวโอเลตก็คือโอโซน โอโซนเป็นก๊าซที่มีปริมาณน้อยมากในบรรยากาศโอโซน
อยู่กระจายปกคลุม โลกจนถึงระดับความสูง 6 กิโลเมตรแต่จะมีความหนาแน่นมากที่สุดที่ความสูง
ระหว่าง 20 ถึง 25 กิโลเมตร ที่ความสูงดังกล่าว จะมีโอโซน 1 โมเลกุลในทุกๆ
100,000โมเลกุลของก๊าซชั้นโอโซนจึงเปรียบเสมือนร่มบางๆ ที่คอยกั้นรังสีอัลตราไวโอเลตไม่ให้ส่อง
ลงมาถึงมนุษย์ มากเกินไป แต่เมื่อไม่นานมานักพบว่าชั้นโอโซนกำลังถูกทำลาย
โดยสารเคมีหลายชนิดสารเคมีที่มีบทบาทในการทำลายโอโซนมากที่สุดก็คือซีเอฟซีสารตัวนี้ใช้กันมากในอุตสาหกรรม
ทำความเย็นคือใช้เป็นสารทำความเย็นในตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศใช้เป็นสารขับดันในกระป๋องสเปรย์พ่นสีกระป๋อง
-
สเปรย์เครื่องสำอางและอื่นๆนอกจากนี้ยังใช้ซีเอฟซีในกระบวนการผลิตโฟมอีกด้วย
-
เมื่อสารซีเอฟซีหลุดเข้าสู่บรรยากาศ จะมีผลเสียต่อบรรยากาศ
2 ประการ ประการแรกทำให้อุณหภูมิของอากาศสูง ขึ้นเพราะ สารซีเอฟซีสามารถดูดกลืนความร้อนได้ดีกว่าคาร์บอนไดออกไซด์มาก
ประการที่สองมีประสิทธิภาพสูงในการ ทำลายชั้นโอโซนจากการศึกษาพบว่าเมื่อสารซีเอฟซีถูกปล่อยออกสู่บรรยากาศจะลอยตัวสูงขึ้นเมื่อถูกรังสีอัตราไวโอเลต
จะสลายตัวได้อะตอมคลอรีนออกมาอะตอมคลอรีนจะไปทำลายโมเลกุลของโอโซนพบว่าอะตอมคลอรีนเพียง
1อะตอมสามารถได้ นานถึง 50ปี
-
ถ้าชั้นโอโซนถูกทำลายจะเกิดผลอะไรบ้างรังสีอัลตราไวโอเลตที่ตกกระทบถึงผิวโลกเราทุกวันนี้เป็นรังสีอัลตรา
ไวโอเลตชนิด บีหรือเรียกสั้นๆว่ายูวี-บี(UV-B)มีความยาวคลื่นระหว่าง0.29ถึง0.32ไมโครเมตร
ยูวี-บี จะมีปริมาณ มากในตอนกลางวันที่มีแดดจัดถ้า อยู่กลางแดดเป็นเวลานานๆอาจทำให้ผิวหนังเกรียมอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง
บางชนิดหรือโรคตาเช่นต้อกระจก ถ้าชั้นโอโซน ถูกทำลายลงทีละน้อยก็หมายความว่า
ปริมาณยูวี-บ ที่ตกกระทบถึง โลกมีมากขึ้นจะมีผู้ป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งผิวหนังเพิ่มขึ้น
รวมทั้งโรคทางตาด้วยนอกจากยูวี-บีที่เพิ่มขึ้นจะเป็น อันตรายต่อมนุษย์แล้วยังพบว่าเปํนอันตรายต่อพืชและสัตว์ด้วยจากการศึกษากับพืชกว่า
200 ชนิดให้ได้รับยูวี-บี เพิ่มขึ้นพบว่าพืช 2 ใน 3 มีอัตราการเจริญเติบโตลดลงโดยเฉพาะ
พืชตระกูลถั่วซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจ ี่สำคัญชนิดหนึ่ง ของโลกพบว่าถ้าได้รับยูวี-บีเพิ่มขึ้นร้อยละ
25 ผลผลิต จะลดลงถึงร้อยละ 20 ถึง 25 ส่วนวัวควายและสัตว์เลี้ยงอื่น
ๆ ก็จะเจ็บป่วยด้วยโรคทางตาและผิวหนังเช่นเดียวกับมนุษย์
ผลอีกประการก็คือรังสีอัลตราไวโอเลตในช่วงความยาวคลื่น0.24ถึง0.29ไมโครเมตรที่มีชื่อเรียกว่า
ยูวี-ซี (UV-C)ซึ่งปกติไม่เคยตกกระทบถึงพื้นโลกเลยอาจจะผ่านมาถึงพื้นโลกได้เมื่อผ่านเข้ามาถึงพื้นโลกแล้วจะเกิดผลอะไร
ต่อมนุษย์บ้าง นั้นนักวิทยาศาสตร ก็ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดแต่จากการทดลองในห้องปฏิบัติการพบว่ายูวี-ซีสามารถ
ทำลายกรดนิวคลีอิก ซึ่งเป็นสารสำคัญในเซลล์สิ่งมีชีวิต รวมทั้งขัดขวางการทำงานของเซลล์ด้วยจากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้
เป็นเพียงแง่มุมหนึ่งของบรรยากาศที่แสดงให้เห็น ถึงคุณประโยชน์อันอนันต์ของบรรยากาศที่มีต่อโลกของเรารวมทั้งชี้ให้
เห็นถึงพฤติกรรมของมนุษย์ที่กำลังทำให้บรรยากาศเปลี่ยนแปลงรวมทั้งผลที่คาดว่าอาจจะเกิดขึ้นในอนาคตบรรยากาศ
เป็น ทรัพยากรธรรมชาติชนิดหนึ่งแต่เป็นทรัพยากรธรรมชาติสำหรับมนุษย์ทุกคนและสำหรับมวลสิ่งมีชีวิตทั้งหลายบน
โลกเรา ไม่สามารถแบ่งสรรบรรยากาศออกเป็นส่วนๆ แล้วเข้าครอบครองเช่นทรัพยากรอื่น
ๆ ได้ถ้าบรรยากาศถูก ทำลาย ไม่ว่าส่วนใดย่อมหมายถึงผลกระทบในวงกว้างสู่ทุกๆคนจงช่วยกันรักษาเอาไว้เพราะนั่นหมายถึงรักษาชีวิตของ
เราไว้ด้วย